RTBS.KM.NEWS

  • home  /
  • นโยบายและแนวปฏิบัติ KM

นโยบายและแนวทางปฏิบัติด้านการจัดการความรู้ (KM)

การจัดการความรู้ (Knowledge Management: KM) เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรให้บรรลุผลลัพธ์ที่เป็นเลิศ โดยเฉพาะในด้านการใช้ข้อมูลและความรู้เพื่อการตัดสินใจ การเรียนรู้ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง องค์กรจึงกำหนด นโยบายและแนวทางการจัดการความรู้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบทั้งในระดับบุคคล หน่วยงาน และองค์กร

นโยบายด้านการจัดการความรู้ (KM Policy)

องค์กรยึดมั่นในการส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกันและการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้โดยมีนโยบาย ดังนี้
1. สนับสนุนการสร้าง เข้าถึง และแบ่งปันองค์ความรู้ ที่สอดคล้องกับภารกิจขององค์กร
2. ส่งเสริมการเรียนรู้จากผลการดำเนินงาน และบทเรียนจากความสำเร็จและความล้มเหลว
3. พัฒนาและใช้ระบบการจัดการความรู้ ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูล ติดตามผล และใช้เป็นฐานในการตัดสินใจ
4. บูรณาการ KM เข้ากับกระบวนการบริหารจัดการและการพัฒนาคุณภาพองค์กร
5. สร้างแรงจูงใจและยกย่องบุคลากรที่มีบทบาทในการจัดการความรู้

แนวทางการจัดการความรู้ (Knowledge Management) ตาม 7 ขั้นตอนเชิงระบบ ตามแนวทาง EdPEx หมวด 4.2

องค์กรให้ความสำคัญกับ “การจัดการความรู้” (Knowledge Management: KM) ในฐานะเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาคุณภาพงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และเสริมสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ โดยได้นำแนวทางการจัดการความรู้แบบองค์รวม 7 ขั้นตอนมาใช้ในการดำเนินงาน ดังนี้

1. การบ่งชี้ความรู้ (Knowledge Identification)

องค์กรดำเนินการวิเคราะห์และระบุความรู้ที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนภารกิจหลัก วิสัยทัศน์ และเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ โดยแยกประเภทเป็น
ความรู้ที่จำเป็น (Core Knowledge) เช่น ความรู้ในการให้บริการ การบริหารจัดการหลักสูตร
ความรู้ที่มีอยู่ (Existing Knowledge) จากบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญ และแหล่งภายนอก
ความรู้ที่ขาด (Knowledge Gaps) ที่จำเป็นต้องพัฒนาเพิ่มเติม

2. การสร้างและแสวงหาความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition)

ส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้ใหม่ผ่าน
การปฏิบัติงานจริง การวิจัยและพัฒนา
การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ (Coaching/Mentoring)
การเข้าร่วมเครือข่ายวิชาการ องค์กรวิชาชีพ หรือความร่วมมือภายนอก

3. การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ (Knowledge Organization)

พัฒนาโครงสร้างและเครื่องมือเพื่อจัดระเบียบองค์ความรู้ให้เข้าถึงได้ง่าย เช่น
ระบบคลังความรู้ (Knowledge Repository)
แฟ้มสะสมผลงานดิจิทัล ฐานข้อมูลบทเรียน
หมวดหมู่ตามหน่วยงานหรือหัวข้อ

4. การประมวลและกลั่นกรองความรู้ (Knowledge Codification and Refinement)

นำองค์ความรู้ที่ได้มาผ่านกระบวนการ
วิเคราะห์ สังเคราะห์ และกลั่นกรอง
พัฒนาให้เป็นแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices), คู่มือ (Manuals), และกรณีศึกษา เพื่อให้สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ และเป็นมาตรฐานในการพัฒนางาน

5. การเข้าถึงความรู้ (Knowledge Access)

สร้างระบบและช่องทางที่เอื้อต่อการเข้าถึงความรู้ของบุคลากรอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
เช่น เว็บไซต์ภายในของหน่วยงาน ระบบด้วยรหัสผ่าน (Authentication)
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อค้นหาและเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา
มีระบบรักษาความปลอดภัย และควบคุมการเข้าถึงตามระดับสิทธิ์

6. การแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Knowledge Sharing)

ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกัน โดยจัดกิจกรรม
CoPs (ชุมชนนักปฏิบัติ)
เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Knowledge Sharing Forum)
กิจกรรม KM Day, KM Talk, หรือ Lunch & Learn เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดประสบการณ์ระหว่างหน่วยงาน/บุคคล

7. การเรียนรู้ (Learning)

องค์กรสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้จาก
บทเรียนความสำเร็จและข้อผิดพลาด (Lesson Learned)
ผลลัพธ์จากการดำเนินงาน (Results-based Learning)
การประเมินตนเองและการจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วม